G20 Summit 2017: เยอรมันและความรับผิดชอบต่ออนาคตโลก

G20 Summit 2017:  เยอรมันและความรับผิดชอบต่ออนาคตโลก

การประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศ G20 ในปี 2017 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เป็นเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองและเศรษฐกิจระดับโลกที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อทิศทางของการพัฒนาโลกในยุคปัจจุบัน

G20 หรือกลุ่มประเทศ 20 ประเทศนั้นรวมตัวกันด้วยประเทศผู้มีอำนาจทางเศรษฐกิจชั้นนำของโลกทั้งประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงสหภาพยุโรป (EU) การประชุม G20 ปี 2017 มีธีมกลางคือ “Global Solutions for Global Problems” ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาสำคัญระดับโลก เช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และการค้าระหว่างประเทศ

ผู้นำประเทศ G20 ได้รวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยให้โลกสามารถรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันที่จริง การประชุมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นในบริบทของความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการลุกฮือของชาตินิยม ซึ่งกำลังคุกคามสדרโลกแบบ multilateral ที่เคยยึดมั่นมา

เยอรมนีภายใต้การนำของแองเกลา แมร์เคิล (Angela Merkel) ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น มุ่งมั่นที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสในการเป็นเจ้าภาพจัด G20 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ และการแก้ไขปัญหาที่ไม่ใช่เรื่องของชาติใดชาติหนึ่งเท่านั้น

การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน: ภารกิจที่ท้าทาย

G20 ปี 2017 มุ่งเน้นไปที่การบรรลุการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ซึ่งหมายถึงการเติบโตที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน และไม่ทำลายสภาพแวดล้อม

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ G20 ได้หารือเกี่ยวกับหัวข้อต่อไปนี้:

  • การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

  • การสร้างงาน

  • การเพิ่มขึ้นของการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

  • การต่อต้านภาวะ warming

  • การเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงิน

**การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ : ภัยคุกคามที่ร้ายแรง

**

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นหนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่โลกกำลังเผชิญอยู่ และ G20 ปี 2017 ยกให้เป็นประเด็นสำคัญในการหารือ

ประเทศ G20 ตระหนักถึงความจำเป็นในการดำเนินมาตรการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และปรับตัวเข้ากับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

**ผลลัพธ์ของการประชุม G20 ปี 2017: ความสำเร็จและข้อจำกัด

** การประชุม G20 ปี 2017 นำไปสู่ความตกลงและคำมั่นสัญญาต่างๆ ที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง :

  • การยืนยันว่าประเทศ G20 จะดำเนินมาตรการเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

  • การให้คำมั่นที่จะดำเนินการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

  • การตกลงร่วมกันในการสร้างเขตการค้าเสรี

แม้ว่าจะมีความสำเร็จบางอย่าง แต่ G20 ปี 2017 ก็ยังเผชิญกับข้อจำกัดและคำถาม เช่น:

  • ความไม่เท่าเทียมกันระหว่างประเทศ: ประเทศที่ร่ำรวยมักจะได้รับประโยชน์จากการค้าเสรีมากกว่าประเทศที่กำลังพัฒนา
  • ขาดการปฏิบัติตาม: คำมั่นสัญญาของ G20 มักจะไม่ได้รับการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

G20 ปี 2017 เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาที่ไม่ใช่เรื่องของชาติใดชาติหนึ่งเท่านั้น เยอรมนีในฐานะเจ้าภาพจัดงาน G20 ได้แสดงบทบาทนำในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม การประชุมนี้ยังเผยให้เห็นข้อจำกัดของ G20 ในการหาข้อยุติและแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน เช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

จีอาร์เกนต์ โคห์ล (Gerhard Schröder): ความมุ่งมั่นในเรื่องสันติภาพ

นอกเหนือจากการประชุม G20 ปี 2017แล้ว เรายังสามารถนำตัวอย่างของจีอาร์เกนต์ โคห์ล อดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมัน (ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 1998-2005) ซึ่งเป็นผู้มีความมุ่งมั่นสูงในเรื่องสันติภาพและการเจรจาไกล่เกลียง

โคห์ลมีส่วนสำคัญในการผลักดันความสามัคคีของยุโรปตะวันออกหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต

เขาเป็นผู้นำในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศรัสเซีย และสนับสนุนนโยบายขยาย NATO ไปยังยุโรปตะวันออก

สรุป:

การประชุม G20 ปี 2017 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาโลก

เยอรมนีภายใต้การนำของแองเกลา แมร์เคิลได้แสดงบทบาทนำในการส่งเสริมความร่วมมือและความสามัคคี

ตัวอย่างของจีอาร์เกนต์ โคห์ล แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเยอรมันในเรื่องสันติภาพและการเจรจาไกล่เกลียง